สิ่งที่เผลอมองข้ามไป
บ่อยครั้งที่เราเลี้ยงบอนไซแล้ว ลืมสังเกต เลี้ยงไปเรื่อยๆ อยู่มาวันหนึ่งมีเวลาอยู่บ้าน มองเห็น ต้นบอนไซอันแสนรักของเรามีอาการเบี้ยวๆเอียงๆ ต่างไปจากที่ตอนได้มาใหม่ๆ
ใบก็ใหญ่ขึ้นแถมหันกระดกกลับไปข้างหนึ่ง ไม่เป็นอย่างที่เราสร้างไว้นึกขึ้นมาได้ว่าบอนไซเขาต้องตั้งไว้กลางแจ้งที่ มีแสงแดดพอเพียงยิ่งรับแสงได้ 360 องศารอบทิศทางเลยยิ่งดี เพราะอะไรหรือ....... โดยธรรมชาติแล้วใบไม้จะหันหน้าใบไปหาแสง
แสงแดดจัดจะช่วยทำให้ใบไม้เล็ก
เนื่องจากเมื่อใบรับแสงเต็มที่ มันก็ไม่ต้องส่งแรงไปขยายใบให้ใหญ่ขึ้นเพื่อรับแสงแดด พืชหายใจและปรุงอาหารด้วยใบ และต้องใช้แสงด้วย (ก็ที่เรียนมาตอนเด็กๆนั่นแหละ)
หากบอนไซด้านใดไม่ค่อยได้รับแสง ทั้งกิ่งทั้งใบมันก็จะเอนหันไปรับแสงอีกด้านหนึ่ง
ต้นไม้สุดรักของเราเลยมีหน้าตาเปลี๊ยนไป๋
พูดไปทำไมมี หากจะให้รับแสงได้ทั่วทิศทางมันต้องตั้งไว้กลางสนาม
สมัยนี้ที่ดินมันแพงสุดปลูกบ้านก็ต้องใช้พื้นที่ให้มากที่สุด พอมีที่เหลือไว้ทำสวนหย่อมหน่อยหนึ่งก็บุญแล้ว ยิ่งในปัจจุบันนิยมคอนโดมิเนี่ยมยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ หาแสงแดดไม่ค่อยจะได้ นอกจากที่ระเบียง ยิ่งบางยูนิตตั้งอยู่ในทิศไม่รับแสงทั้งปีไม่เจอแสงแดด แบบนี้ต้องนำออกตั้งที่ระเบียงหรือไว้ใกล้ในส่วนที่มีแสงส่องเข้าถึง และที่สำคัญสองสามสัปดาห์ต้องคอยหมุนให้บอนไซด้านอับแสงไปอยู่ที่ด้านรับแสง ด้วย
แม้ว่าการอาศัยในคอนโดมิเนี่ยมมีพื้นที่จำกัด... ยกเว้นระดับแพงลิบลิ่วที่มีพื้นที่กว้างขวาง แต่ไม่ว่าขนาดไหนก็จำเป็นต้องหาต้นไม้มาตั้งประดับไว้บ้างสร้างความเขียว เพื่อความชุ่มชื่นหัวใจ บางท่านขอให้ได้ใกล้ธรรมชาติสีเขียวบ้างโดยใช้ภาพ ต้นไม้ หรือภาพวิวสวยๆ(ขอเน้น..ไม่ใช่ภาพหวิว) มาประดับแทน การอยู่บ้านเดี่ยวอย่างเก่งก็สองชั้น ถ้าบ้านเรามีต้นไม้น้อย มองออกไปยังเห็นสีเขียวต้นไม้ของเพื่อนบ้านได้ แต่คอนโดมองออกไปไม่ค่อยเจอสีเขียว เจอแต่สีฟ้าหรือไม่ก็ตึกสูงข้างเคียง บอนไซจึงมาตอบโจทย์นี้ได้
ไม่ว่าในบ้านหรือในคอนโดถ้ามีบอนไซสวยๆขนาดไม่ใหญ่มากนัก ไม่เกินฟุตครึ่งขนาดพอยกได้ ยิ่งเล็กยิ่งดี จะทำให้สะดวกแก่การยกย้ายเปลี่ยนที่ตั้งวางได้ ไม่เบื่อตา เอาไว้ในห้องรับแขกบ้าง ในห้องอาหารบ้าง สวยงามชื่นใจ แถมยังได้ประโยชน์ต่อเนื่องเพราะแขกผู้มาเยี่ยมเยียนที่มักชอบของสวยเป็น ธรรมชาติอยู่แล้วจะได้มีจุดสนใจ
ไม่ไปมองเห็นในสิ่งที่เราไม่อยากให้เห็น
หากเป็นคอบอนไซด้วยกันยิ่งดีไปใหญ่ มีเรื่องคุยกันไม่หยุด เปลืองแต่น้ำไม่ค่อยเปลืองอาหารจ้า
ไปพบ เว็บไซต์ต่างประเทศ อยู่เว็บหนึ่งน่าสนใจ เสียดายจำชื่อเว็บไม่ได้แล้ว หาไม่พบ เว็บมาสเตอร์เป็นชาวอเมริกันผู้นิยมบอนไซ และยังได้รับเชิญไปบรรยายขยายความรู้ให้วงการเสมอมา บ้านแกตกแต่งแนวตะวันออก จีน ญี่ปุ่น สวนเป็นสวนญี่ปุ่น สวยงามมากต่อมาแกไม่สามารถเดินได้ต้องใช้รถเข็น แต่แกก็ยังดูแลบอนไซของแก นอกนั้นยังสะสมกระถางบอนไซสวยงามมากมายระยะหลังแกป่วยเป็นมะเร็ง แต่ด้วยบอนไซที่แกรักนี่แหละเป็นธรรมชาติบำบัด แกสามารถสู้กับโรคร้ายได้มาอีกนาน
ปัจจุบันแกเสียชีวิตไปแล้ว UPDATE ดีใจ เจอแล้วครับ ลองเข้าไปชม น่าสนใจมากครับ
เคล็ดไม่ลับอย่างที่ทราบกันดีคือ
เป็นมะเร็งต้องไม่เครียด ทำจิตใจแจ่มใส ไม่หดหู่ ไม่คิดมาก การที่แกอยู่กับสิ่งที่รักไม่ต้องคิดเรื่องอื่น มีสมาธิในการปลูกเลี้ยงบอนไซ
จึงมีส่วนช่วยยืดชีวิตได้ยาวนาน
เลี้ยงบอนไซมีแต่ให้ความสุข
มาเลี้ยงบอนไซกันนะครับ